ชารีฟ 1400 ทัวร์แห่งศรัทธา
‘นี่ไม่ใช่หน้าที่แต่เป็นชีวิตของเรา ในการนำแขกของพระเจ้าไปบ้านท่าน’
การประกอบพิธีฮัจย์ คือการเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่นครมักกะฮ์ในเดือนซุลฮิจยะห์ ตามวันเวลา และสถานที่ต่างๆ ที่ทางศาสนาอิสลามกำหนดไว้ ซึ่งศาสนกิจข้อนี้เป็นหน้าที่สำหรับมุสลิมทั้งชาย และหญิงทุกคนที่มีความสามารถในด้านร่างกาย ทรัพย์สิน และการเดินทาง จะต้องปฏิบัติ
“ด้วยประสบการณ์ที่มากกว่า 20 ปี รวมกับทีมบุคคลากรที่มีความรู้ทางศาสนาอิสลาม และความเข้าใจในด้านต่างๆอย่างเฉพาะเจาะจง จึงทำให้สิ่งที่เรากำลังทำนั้นไม่ใช่เพียงแค่ขายทัวร์ เพราะเราคือคนดูแล เหล่าผู้คนที่อัลเลาะห์ได้คัดเลือกให้ไปหาพระองค์ ณ ที่บ้านของพระองค์ สิ่งนี้จึงไม่ใช่หน้าที่เรา แต่มันเป็นชีวิตของเรา กระนั้นก็ไม่แค่ชีวิตของเราเท่านั้น เพราะทุกคนที่เราดูแลนั้นไม่ได้เป็นแค่ลูกค้าของเราเช่นกัน เพราะพวกเขาคือแขกของพระผู้เป็นเจ้า” นี่คือประโยคที่ “ชารีฟ 1400 (ประเทศไทย)” จำกัดความบริษัทฯไว้ในเว็บไซต์ของตัวเอง และเป็นสิ่งที่บริษัทฯยึดถือในการดำเนินงานมาตลอด
นายชารีฟ ทองคำวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชารีฟ 1400 (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทจัดทำทัวร์เพื่อให้ผู้แสวงบุญได้ไปร่วมพิธีฮัจย์ และพิธีกรรมอื่นๆทางศาสนาอิสลาม ซึ่ง “นายชารีฟ” ถือเป็นผู้นำบริษัทฯรุ่นที่สองต่อจากบิดา เปิดเผยว่า “ชารีฟ 1400 เกิดขึ้นมากว่า 20 ปี ซึ่งเดิมทีบริษัทชื่อ “มูซากมล” ในช่วงเริ่มต้น แต่ด้วยยุคสมัยทำให้ต้องมีการเปลี่ยนชื่ออยู่บ้าง จนมาสรุปเป็น “ชารีฟ 1400” เมื่อประมาณ 8 ปีก่อน ชื่อของชารีฟ เป็นชื่อของตน ส่วน 1400 เป็นเลขฮิจเราะห์ศักราชปีที่คุณพ่อเดินทางไปประเทศซาอุครั้งแรก หรือประมาณ 40 ปีก่อน ในฐานะพนักงานของบริษัทรถยนต์แห่งหนึ่ง ซึ่งต้องเดินทางไปทำงานที่นั่น โดยการก่อตั้ง “ชารีฟ 1400” คุณพ่อจะบอกเสมอว่าเราไม่ได้เริ่มจากศูนย์ แต่เริ่มมาจากติดลบ ซึ่งเราต้องทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจกว่าจะมีวันนี้
“การทำงานตรงนี้ไม่เพียงแค่การทำงานบริการ แต่ถือเป็นการพาแขกของพระเจ้าไปทำพิธีกรรมตามความเชื่อของชาวมุสลิม ซึ่งถือเป็นหน้าที่ที่สำคัญ เพราะหากเราทำได้ไม่ดี ก็เหมือนว่าเราปฏิบัติต่อแขกของพระเจ้าไม่ดี พระเจ้าท่านก็จะสาปแช่งเรา เราก็ไม่มีวันเติบโต” ชารีฟ กล่าว
รูปแบบการดำเนินงานของ “ชารีฟ 1400” คือเมื่อผู้ซื้อทัวร์ลงทะเบียนเรียบร้อย บริษัทฯจะพยายามทำให้ผู้ร่วมเดินทางมีความกังวลน้อยที่สุด โดยบริษัทฯจะมีการจัดสัมมนากับลูกค้า 2 ครั้ง ก่อนถึงวันเวลาเดินทางประมาณ 3 เดือน ซึ่งจะมีการจัดทำข้อมูลตามลำดับขั้นตอนให้ดูง่ายที่สุด ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายที่สุด เพราะการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ไม่ใช่การเดินทางในระยะเวลาสั้น แต่การเดินทางร่วมพิธีดังกล่าวจะใช้เวลาไปอยู่เป็นเดือน แม้วันประกอบพิธีจะมีประมาณ 10 วันก็ตาม แต่เมื่อผู้แสวงบุญไปถึงแผ่นดินหะรอม (แผ่นดินต้องห้าม) ต่างก็อยากอยู่ในพื้นที่ให้นานที่สุด เพราะถือว่าได้ใกล้ชิดกับพระเจ้าตามความเชื่อของชาวมุสลิม ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าวจะมีชาวมุสลิมจากทั่วโลกมาร่วมพิธี ซึ่งแต่ละปีจะมีผู้คนเข้ามาในพื้นที่นั้นร่วม 3 ล้านคน ทำให้การเตรียมตัวต้องมีมาก อีกทั้งผู้ร่วมเดินทางส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มคนที่ไปเป็นครั้งแรก การเตรียมตัวและทำความเข้าใจในรายละเอียดต่างๆจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งบริษัทฯถือว่าพระเจ้ามอบหมายงานตรงนี้ให้ จึงต้องทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจลงไปในการทำงาน
ทั้งนี้ การทำฮัจย์เป็นพิธีกรรมทางศาสนาที่เก่าแก่ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยศาสดาอิบรอฮีม การทำฮัจญ์เริ่มต้นขึ้นเมื่ออัลลอฮได้บัญชาให้ศาสดาอิบรอฮีม และศาสดาอิสมาอีล ผู้เป็นลูกชายร่วมกันทำนุบำรุงบัยตุลลอฮขึ้นมาเพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับการเคารพบูชาอัลลอฮ เมื่อซ่อมแซมเสร็จแล้ว พระองค์ก็ทรงบัญชาให้ศาสดาอิบรอฮีม เรียกร้องให้มนุษย์ชาติมาร่วมกันแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ เมื่อกาลเวลาผ่านไปชนรุ่นหลังได้อุตริรูปแบบการทำฮัจย์ จนมันได้เปลี่ยนแปลงไปจากรูปแบบเดิมที่อัลลอหฺได้ทรงกำหนดไว้ เช่น มีการนำเทวรูปต่างๆมาตั้งรอบๆกะอฺบะหฺ เพื่อบูชาในระหว่างการทำหัจญ์และมีการเปลือยกายในยามทำพิธีฏอวาฟ พร้อมกับกู่ร้องและปรบมือ จนกระทั่งมาถึงสมัยของศาสดามุฮัมหมัด สิ่งแรกที่ท่านปฏิบัติก็คือการทุบทำลายเทวรูปและเจว็ดรอบข้างกะอฺบะหฺจนหมดสิ้น และท่านก็ได้แสดงแบบอย่างของการทำฮัจย์ที่ถูกต้องให้บรรดาผู้ศรัทธาได้ปฏิบัติสืบทอดกันมาจนถึงวันนี้
ด้านนายกมล ทองคำวงศ์ ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ และเป็นบิดาของนายชารีฟฯ กล่าวถึงพิธีฮัจย์ว่า พระเจ้าจะรับฮัจย์ของคุณหรือไม่นั้น ไม่ใช่แค่คุณเดินทางไปประกอบพิธี ซึ่งหลายคนเข้าใจว่าเมื่อชาวมุสลิมได้เดินทางไปที่แผ่นดินหะรอม ประกอบพิธีฮัจย์แล้วก็จบ ซึ่งนั่นไม่ใช่ แต่พระเจ้าจะรับฮัจย์จากคุณคือหลังจากนั้น โดยพระเจ้าจะมองว่าหลังจากที่คุณเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์แล้วกลับมาคุณเป็นคนดีหรือเปล่า มีน้ำใจเอื้อเฟื้อต่อเพื่อนมนุษย์ไหม และหากใครที่เดินทางไปประกอบพิธีกลับมาแล้วเป็นคนดีอยู่ในศีลตามหลักศาสนา มีความรักความเมตตา นั่นถือเป็นผู้ที่ประกอบพิธีฮัจย์ได้อย่างสมบูรณ์