นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมด้วยนางสุพร ตรีนรินทร์ รองเลขาธิการ กปร. รักษาราชการแทนเลขาธิการ กปร. และคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปติดตามการดำเนินงานโครงการอ่างเก็บน้ำคลองลำกงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ โอกาสนี้ รับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานโครงการฯ พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการฯ ให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุด จากนั้น พบปะเยี่ยมเยียนราษฎรผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ และเยี่ยมชมพื้นที่โครงการฯ พร้อมร่วมปลูกต้นไม้เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวให้แก่ชุมชนต่อไป
โครงการอ่างเก็บน้ำคลองลำกงฯ เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเหนือเขื่อนป่าสักอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานไว้ เมื่อปี 2547 ลักษณะเป็นเขื่อนดิน ขนาดความจุ 48.52 ล้านลูกบาศก์เมตร ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2556 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างระบบส่งน้ำให้แก่ราษฎรสำหรับอุปโภคบริโภค และช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกในเขตตำบลวังท่าดี ตำบลท่าแดง ตำบลบ่อไทย และตำบลวังโบสถ์ อำเภอหนองไผ่ ในช่วงฤดูฝนรวมพื้นที่รับประโยชน์ 50,000 ไร่ และในช่วงฤดูแล้ง รวมพื้นที่ 22,000 ไร่ นอกจากนี้โครงการยังสามารถบรรเทาอุทกภัยที่เกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ตามแนวสองฝั่งลำน้ำคลองลำกงและพื้นที่ใกล้เคียง และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดให้ประชาชนได้บริโภคและเป็นรายได้เสริมให้ครอบครัว ทั้งนี้ราษฎรได้ร่วมกันจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำในนาม “กลุ่มผู้ใช้น้ำอ่างเก็บน้ำคลองลำกง” และกลุ่มพื้นฐาน จำนวน 101 กลุ่ม มีสมาชิก 354 ราย จำนวนพื้นที่ 5,362 ไร่ เพื่อบริหารจัดการน้ำให้เกิดความเป็นธรรมและประโยชน์กับทุกครอบครัวต่อไป
ในช่วงบ่าย องคมนตรี และคณะฯ เดินทางไปยังโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยป่าเลาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ รับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานโครงการฯ การนี้ องคมนตรี ได้ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการฯ และพบปะเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่ พร้อมเยี่ยมชมพื้นที่โครงการฯ โอกาสนี้ องคมนตรีและคณะร่วมปล่อยพันธุ์ปลาลงในอ่างเก็บน้ำฯ เพื่อขยายพันธุ์และเป็นแหล่งอาหารโปรตีนให้แก่ราษฎรในพื้นที่ต่อไป
โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยป่าเลาฯ เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเหนือเขื่อนป่าสักอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ลักษณะเป็นเขื่อนดิน ขนาดความจุ 8.4 ล้านลูกบาศก์เมตร ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2551 สามารถช่วยเหลือพื้นที่ชลประทานของอ่างเก็บน้ำห้วยป่าเลาฯ จำนวน 1,020 ไร่ ช่วยเหลือพื้นที่ชลประทานฝั่งซ้ายของอ่างเก็บน้ำห้วยป่าแดง จำนวน 1,500 ไร่ ในพื้นที่ตำบลป่าเลา และตำบลสะเดียง รวมทั้งยังเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำรองเพื่อการผลิตน้ำประปา สำหรับอุปโภคบริโภค
นอกจากนี้เพื่อให้โครงการเกิดประสิทธิภาพและสนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จึงกำหนดจัดทำโครงการเพิ่มศักยภาพการเก็บกักอ่างเก็บน้ำห้วยป่าเลาฯ เพื่อเพิ่มปริมาณการกักเก็บน้ำจาก 8.4 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 9.97 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อเพิ่มน้ำต้นทุนในการเพาะปลูกให้แก่เกษตรกรในช่วงฤดูแล้ง สามารถส่งน้ำสนับสนุนการเพาะปลูกพืช จำนวน 4,500 ไร่ และช่วยเพิ่มผลผลิตของพืช เนื่องจากมีน้ำเพียงพอและสม่ำเสมอ อีกทั้งเพื่อรองรับการขยายตัวด้านอุปโภคบริโภคที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคตด้วย
นายมานะ สุทนต์ เกษตรกรในพื้นที่ ต.ป่าเลา อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์
นายมานะ สุทนต์ เกษตรกรในพื้นที่ ต.ป่าเลา อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า เราได้ทำเกษตรกรรมแบบพอเพียงตามแนวพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 รวมถึงได้สานต่อตามแนวคิดโคกหนองนาโมเดลเราได้มีการจัดสรรการใช้น้ำ โดยพิจารณาจากการปล่อยน้ำของระบบชลประทานและจัดสรรตามความเหมาะสม ในพื้นที่นี้เรามีผู้ร่วมโครงการอยู่ประมาณ 2 พันกว่าไร่ สำหรับผลผลิตที่ได้ทางจังหวัดได้ช่วยส่งเสริมให้เราขายในตลาดชุมชน โดยมีรายได้ 500-700บาทต่อวัน ทำให้ปัจจุบันนี้เรามีรายได้เพิ่มมากขึ้นและมีชุมชนที่เข้มแข็ง ต้องขอขอบคุณทางเกษตรจังหวัด และกรมพัฒนาที่ดินที่ได้เข้ามาให้ความรู้ทั้งในเรื่องของโรคแมลง การทำปุ๋ยและอาหารเสริมให้กับพืชผัก ทำให้เรามีผลผลิตทางการเกษตรที่เจริญงอกงามและสร้างรายได้ให้กับชุมชนเป็นอย่างมาก