การท่าอากาศยานไทย (AOT) ร่วมกับบริษัท ผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น จำกัด (DCAP) จัดพิธีเปิด “โครงการระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” (Solar Rooftop) อย่างเป็นทางการ โดยมีนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และนายสุวิทัต วงศ์วิเชียร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 2) เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต
นายกีรติ กล่าวว่า โครงการนี้ นับเป็นหนึ่งโครงการสำคัญที่จะขับเคลื่อนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้ก้าวสู่การเป็นต้นแบบสนามบิน ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Green Airport แห่งแรกในประเทศไทย AOT จึงได้ร่วมกับ บริษัท ผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น จำกัด (DCAP) ทำการติดตั้งโซลาร์เซลล์ขนาด 4.4 MW (เมกะวัตต์) บนหลังคาอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อนำไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานแสงอาทิตย์มาพัฒนาใช้หมุนเวียนภายในท่าอากาศยาน
ผลจากการดำเนินโครงการนี้ เชื่อว่า จะทำให้ความร้อนภายในอาคารผู้โดยสารลดลงมากกว่า 7 องศา ลดการใช้พลังงานระบบความเย็นภายในอาคารได้ 2% คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 11 ล้านบาทต่อปี สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ได้มากกว่า 3,600 ตัน/ปี หรือเทียบเท่ากับจำนวนต้นไม้ 360,000 ต้น ที่ต้องใช้ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี
นายกีรติ กล่าวต่อไปว่า ในการดำเนินโครงการฯนี้ AOT ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ มาช่วยกันวางแผนพัฒนาและทดสอบหลากหลายขั้นตอนเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานในระดับสากล และมั่นใจได้ว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปลอดภัย และไม่กระทบต่อการบินและการควบคุมการจราจรทางอากาศตามกฎ FAA (Federal Aviation Administration) ตลอดจนตัวอาคารแต่อย่างใด
“AOT ให้ความสำคัญกับการจัดการสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการส่งเสริมการเดินทาง การท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด การติดตั้ง Solar Rooftop บนอาคารผู้โดยสารนี้ เป็นแนวคิดที่จะนำพลังงานจากธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อทดแทนการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในโครงการรักษ์โลกที่จะนำไปสู่แผนพัฒนาอุตสาหกรรมทางการบินอย่างยั่งยืน” นายกีรติกล่าว
สำหรับเป้าหมายต่อไปคือ การติดตั้ง Solar Cell บนพื้นที่บนอาคารต่าง ๆ รวมถึง Floating Solar บนพื้นน้ำในเขตท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีเป้าหมายการติดตั้ง 50 MW เท่ากับ 20 % ของการใช้พลังงานทั้งหมดของท่าอากาศยาน
นายกีรติเปิดเผยด้วยว่า “นอกเหนือจากการติดตั้ง Solar Rooftop แล้ว AOT ยังเตรียมที่จะปรับเปลี่ยนยานพาหนะทั้งหมดให้เป็นระบบไฟฟ้า ภายใน 4 ปี พร้อมกับปรับเปลี่ยนแท๊กซี่ที่มีในสนามบินสุวรรณภูมิกว่า 4,000 คันให้เป็นรถไฟฟ้า โดยเบื้องต้นในระยะ 4 ปีนี้น่าจะเปลี่ยนได้ไม่น้อยกว่า 1,000 คัน”
อนึ่ง บริษัท ผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น จำกัด (DCAP) เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน (ปตท.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เพื่อประกอบกิจการผลิตจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่พื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและผลิตจำหน่ายน้ำเย็นสำหรับระบบปรับอากาศให้แก่อาคารต่าง ๆ ในบริเวณท่าอากาศยานฯ ได้รับสัมปทานประกอบกิจการไฟฟ้าจากกระทรวงพลังงานเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2546 และได้เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2549