หลายพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เดินหน้าเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลายพื้นที่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คงเหลือพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่งที่ยังมีน้ำท่วมขัง เร่งสูบระบายน้ำออกอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า อิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะในพื้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี และยะลา นั้น ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้วหลายจุด โดยที่จังหวัดนราธิวาส มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 13 อำเภอ ได้แก่ อ.แว้ง อ.ศรีสาคร อ.ระแงะ อ.เจาะไอร้อง อ.สุไหงปาดี อ.บาเจาะ อ.จะแนะ อ.สุไหงโก-ลก อ.สุคิริน อ.เมือง อ.รือเสาะ อ.ยี่งอ และอ.ตากใบ ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำ สุไหงโก-ลก ที่สถานีวัดน้ำบ้านบูเก๊ะตา อ.แว้ง ต่ำกว่าตลิ่ง 3.42 เมตร แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ที่สถานีวัดน้ำบริเวณสะพานลันตู อ.สุไหงโก-ลก ต่ำกว่าตลิ่ง 0.05 เมตร มีแนวโน้มลดลง สำนักงานชลประทานที่ 17 ได้ให้การช่วยเหลือติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 9 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 3 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำระบบไฮโดรโฟอีก 7 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่แล้ว
ส่วนที่จังหวัดปัตตานี มีพื้นที่น้ำท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.หนองจิก และอ.เมือง สถานการณ์น้ำลุ่มน้ำปัตตานี ที่สถานีวัดน้ำแม่น้ำปัตตานี ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 48 เซนติเมตร และมีแนวโน้มลดลง ที่สถานีวัดน้ำเทศบาลเมืองปัตตานี ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 30 เซนติเมตร มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน ส่วนที่ลุ่มน้ำสายบุรี ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำบ้านลาคอ ต่ำกว่าตลิ่ง 1.94 เมตร มีแนวโน้มลดลง สำนักงานชลประทานที่ 17 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 1 เครื่อง เร่งระบายน้ำบริเวณพนังกั้นน้ำโรงพยาบาลหนองจิก
ที่จังหวัดยะลา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม 1 อำเภอ คือ อ.รามัน สถานการณ์น้ำที่สถานีวัดน้ำแม่น้ำปัตตานี บ้านหัวสะพาน ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.07 ม. และมีแนวโน้มลดลง
กรมชลประทาน ได้เข้าให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีพื้นที่ที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร สตูล พัทลุง สงขลา ตรัง นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ซึ่งหลังจากนี้จะทำการสำรวจความเสียหายเพื่อดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ต่อไป ส่วนในพื้นที่ที่ยังได้รับผลกระทบอยู่ จะเร่งดำเนินการช่วยเหลือต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ