‘สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ’ เปิดเวทีระดมสมอง
เฝ้าระวังผลกระทบนโยบายใช้กัญชาทางการแพทย์
งาน “สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 12” ตั้งโต๊ะเสวนาหัวข้อ “การเฝ้าระวัง และกลไกการจัดการผลกระทบจากนโยบายกัญชาทางการแพทย์” ระดมสมองเฝ้าระวังผลกระทบต่อนโยบายกัญชาทางการแพทย์ เตรียมการเชิงรูปธรรมรองรับตามบทบาทของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องครอบคลุม Safety Effectiveness และ Efficiency ใน 5 มิติ
นางอรพรรณ ศรีสุขวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการการจัดงาน “สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 12” ในวันที่สอง ได้เปิดเวทีเสวนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม “การเฝ้าระวัง และกลไกการจัดการผลกระทบจากนโยบายกัญชาทางการแพทย์” ตามวัตถุประสงค์ของการเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์และกรณีศึกษาจากกัญชาทางการแพทย์ ทั้งในและต่างประเทศ และเรื่องที่ควรคำนึงถึงเพื่อรองรับนโยบายกัญชาทางการแพทย์ รวมถึงให้ได้ข้อเสนอต่อการเฝ้าระวังผลกระทบ กลไกการจัดการ และการเตรียมการเชิงรูปธรรม ต่อนโยบายกัญชาทางการแพทย์ของไทย
งานเสวนาในครั้งนี้ จะเน้นข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับประสบการณ์และกรณีศึกษาทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับนโยบายกัญชาทางการแพทย์ และนำเสนอแนวทางการเฝ้าระวัง กลไกการจัดการ ตลอดจนการเตรียมการเชิงรูปธรรมเพื่อรองรับนโยบายกัญชาทางการแพทย์ ตามบทบาทของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ครอบคลุมในเรื่อง Safety Effectiveness และ Efficiency ใน 5 มิติ คือ 1) ความรู้ในการใช้กัญชาทางการแพทย์ 2) นโยบายกัญชาทางการแพทย์ของสถานพยาบาล (Hospital Policy) 3) ระบบการให้คำปรึกษาต่อการใช้กัญชาในเชิงพิษวิทยา (Consultation Service & Operation System) 4) การคุ้มครองผู้บริโภค (Consumer Protection) และ 5) ระบบและการควบคุมกำกับ (Systems & Regulator)
“นางอรพรรณฯ” กล่าวต่อว่า “ประเด็นกัญชาต้องใช้ความประณีตในการทำงาน ซึ่งไม่ควรนำการเสวนาจากหลายเวทีมารวมกันเพราะสิ่งนี้คือกระบวนการ โดยทุกฝ่ายต้องเปิดใจรับฟังเหตุผลของแต่ละฝ่าย โดยเฉพาะด้านวิชาการ กับ ภูมิปัญญาชาวบ้าน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้จบที่นำกัญชาเข้าไปในโรงพยาบาล แต่มันยังมีเรื่องของภูมิปัญญาที่ชาวบ้านก็มีเหตุผลว่าเขาก็ใช้มาก่อน แล้วทำไมถึงต้องจำกัดแค่ที่โรงพยาบาล สิ่งนี้จะต้องใช้ความละเอียดในการทำงานเป็นอย่างมาก”
สำหรับการเสวนาในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์ อย่าง ผศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, รศ.พญ. รัศมน กัลยาศิริ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ศ.นพ.วินัย วนานุกูล หรือ ผศ.นพ. สหภูมิ ศรีสุมะ ศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี, นายวีรพงษ์ เกรียงสินยศ มูลนิธิสุขภาพไทย รวมถึงผู้แทนจากสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมวงเสวนา
ทั้งนี้ จากการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้ ผู้ร่วมเสวนาล้วนเห็นด้วยที่จะนำกัญชามาใช้ในทางการแพทย์ เนื่องจากกัญชามีสรรพคุณทางยา สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยของผู้คนได้จริง แต่สิ่งที่ยังเป็นห่วงคือ ในตัวกัญชามีสารที่อาจทำให้ติด และกัญชาก็ไม่ใช่ยาเทวดา ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยังต้องหาทางควบคุมว่าจะนำไปใช้อย่างไร กับใครในปริมาณเท่าไร ตลอดจนการแยกแยะสำหรับการใช้ในทางการแพทย์ และสันทนาการ ที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้คนในสังคมต่อไป