สาธิตพัฒนา แผนกมัธยมฯ ปั้นหลักสูตรเข้มวิชาการผนวกแผนการเรียนรายบุคคล
โรงเรียนสาธิตพัฒนา ฝ่ายมัธยมฯ ร่วมกับ เลิร์น คอร์ปอเรชั่น ริเริ่มการเรียนการสอนแบบ ID Plan หรือระบบการเรียนการสอนโดยวางแผนการเรียนจากความถนัดผนวกกับการใช้จิตวิทยาเชิงบวก เพื่อสร้างเป็นแผนการเรียนของนักเรียนแบบรายบุคคลตลอดระยะเวลา 6 ปี เพื่อให้ผู้เรียนมุ่งความตั้งใจไปในทิศทางตามอาชีพที่ตนมุ่งหวัง ส่งผลเชิงบวกในระยะยาวตั้งแต่วัยเรียนถึงชีวิตการทำงาน
รศ.ลัดดา ภู่เกียรติ ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตพัฒนา เผยว่า “จากวิสัยทัศน์ของโรงเรียนในการเป็นสถานศึกษาชั้นแนวหน้าของประเทศ เพื่อพัฒนานักเรียนให้มีความเป็นผู้นำที่มีหัวใจประชาธิปไตย กล้าแสดงออก มีทักษะชีวิต คิดเชิงบวก และสามารถสื่อสารได้ในระดับนานาชาติ จึงได้มีแนวคิดในการพัฒนาหลักสูตร 5 F (FUN FIND FOCUS FULFILLMENT และ FRUITION) เพื่อให้นักเรียนได้ค้นพบศักยภาพ ความสามารถ ความชอบของตนเองเพื่อจะต่อยอดไปสู่อาชีพที่ตรงกับความสามารถของตนเองได้ในอนาคต โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นักเรียนของโรงเรียนได้ต่อยอดตามความฝันด้วยการเรียนต่อในสาขาที่ตนอยากเรียน อย่างไรก็ตามโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การจัดการศึกษาในระบบโรงเรียนจึงต้องปรับเปลี่ยนให้ทัน ดังนั้นในปีการศึกษา 2563 โรงเรียนจึงได้ร่วมมือกับ เลิร์น คอร์ปอเรชั่น องค์กรอันดับหนึ่งด้านการพัฒนานวัตกรรมการศึกษาของประเทศไทย มาบริหารจัดการงานด้านวิชาการของโรงเรียนสาธิตพัฒนาฝ่ายมัธยมฯ เพื่อพัฒนานักเรียนต่อยอดจากฝ่ายประถมศึกษาให้ชัดเจนในตัวตนมากขึ้น เน้นเติมเต็มศักยภาพเพื่อส่งต่อสู่ความสำเร็จในอนาคต โดยการพัฒนาดังกล่าว ถือเป็นการต่อยอดจุดแข็งของโรงเรียนที่มีความโดดเด่นในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีมาตรฐานระดับสากล มีพื้นที่กว้างขวางและสวยงาม เอื้อต่อการเรียนรู้เสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับนักเรียน ส่งผลให้โรงเรียนสาธิตพัฒนากลายเป็นโรงเรียนที่มีจุดแข็งรอบด้านทั้งวิชาการ และสภาพแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน
นายสุธี อัสววิมล หัวหน้าทีมวิชาการโครงการเลิร์น สาธิตพัฒนา เผยว่า “ความร่วมมือระหว่างโรงเรียนสาธิตพัฒนา ฝ่ายมัธยมฯ และเลิร์น คอร์ปอเรชั่น เกิดจากการศึกษากระแสหลักของประเทศในปัจจุบันยังไม่ตอบโจทย์ เนื่องด้วยโรงเรียนมัธยมไทยส่วนมากมีการสะท้อนผลสัมฤทธิ์เด็กนักเรียนด้วยคะแนนเป็นหลัก แต่ไม่นำคะแนนมาสร้างแนวทางพัฒนาเด็กในทางตรงกันข้าม โรงเรียนมัธยมนานาชาติที่มีการวัดผลหลายมิติ แต่มีอัตราค่าเทอมสูง ตัดโอกาสเด็กนักเรียนจำนวนมาก อีกทั้งผลสัมฤทธิ์เชิงคะแนนยังไม่ตอบโจทย์เพียงพอต่อการสมัครเรียนต่อในสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำต่างๆ ดังนั้น หลักสูตรร่วมที่ได้พัฒนาในครั้งนี้ จึงมุ่งสร้างความเข้มแข็งด้านวิชาการเพื่อเป็นใบเบิกทางในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาชั้นนำทั้งในไทยละต่างประเทศ ด้วยแนวทาง 3 Core Pillars อันได้แก่ การเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก การใช้หลักสูตรการเรียนการสอนภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน Cambridge (CAIE) ในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน (English 4 skills) ได้แก่ ฟัง พูด อ่าน เขียน โดยมุ่งเน้นให้เด็กนักเรียน สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้จริงทั้งในการทำงาน การใช้ชีวิตประจำวัน นอกห้องเรียนและในอนาคต และการพัฒนาแผนการเรียนการสอน Individual Development Plan แผนการเรียนตามเป้าหมายรายบุคคล หรือ ID Plan ซึ่งเป็นการวางแผนโดยมุ่งเน้นเป้าหมาย ความสนใจ และความถนัดของนักเรียนแต่ละคน และนำมาสร้างเป็นแผนการเรียนการสอนตลอดระยะเวลา 6 ปี เพื่อให้นักเรียนสามารถค้นพบศักยภาพของตนเองและเลือกเรียนวิชาที่ตรงกับเป้าหมายของตน โดยทางโรงเรียนจะเป็นผู้สนับสนุนทั้งในด้านวิชาการ กิจกรรมและการเสริมสร้างการเรียนรู้ โดยการใช้ระบบ Learning Ecosystem หรือระบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานเข้ามาช่วย เพื่อให้ 7 ชั่วโมงต่อ 1 วัน เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเพื่อให้นักเรียนสามารถบรรลุเป้าหมาย ทั้งในด้านการเลือกสาขาวิชาเรียนต่อในรั้วมหาวิทยาลัย และการเลือกอาชีพที่เหมาะสมกับความสามารถของตน ทั้งนี้ ยังมีการพัฒนาความร่วมมือทางด้านบุคลากร
โดยมีการเชิญอาจารย์จากสถาบันออนดีมานด์ ในเครือ เลิร์น คอร์ปอเรชั่น มาเป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรของโรงเรียน ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยสร้างความโดดเด่นด้านวิชาการ ตลอดจนหลักสูตรเฉพาะที่จะสามารถพัฒนาเด็กนักเรียนได้อย่างเต็มศักยภาพ”
ด้านนายเศรษฐพล ไกรคุณาศัย หัวหน้าทีมบริหารโครงการเลิร์น สาธิตพัฒนา กล่าวเสริมว่า “การร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรดังกล่าว ทำให้โรงเรียนสาธิตพัฒนาฝ่ายมัธยม เป็นโรงเรียนหลักสูตรไทยที่มีมาตรฐานนานาชาติ และเป็นผู้นำด้าน ID School ที่ประยุกต์ใช้ Positive Psychology ในการพัฒนา Character นักเรียนแบบรอบด้าน ผนวกการประยุกต์ใช้ RAISEC Model ในการค้นหาตัวตนและศักยภาพของตนเอง นอกจากนั้น โรงเรียนฯ ยังเน้นการเข้าถึงของนักเรียนในทุกพื้นที่ สนองนโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยได้มีการขอเปิดหอพักให้นักเรียนในระดับมัธยมศึกษา และคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564 แบ่งสัดส่วนการรับนักเรียนจากกรุงเทพและปริมณฑลประมาณ 67% และต่างจังหวัดประมาณ (ประจำ) 33% โดยได้มีการพัฒนาหอพักนักเรียนให้มีความสวยงาม มีสิ่งอำนวยความสะดวกได้มาตรฐานระดับนานาชาติ มีพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบให้นักเรียนไม่รู้สึกว่าเป็นหอรวมแบบเดิมๆ รวมทั้งการมีกิจกรรมที่ทางคณาจารย์ที่ดูแลนักเรียนประจำได้เตรียมไว้สำหรับช่วงเวลาหลังเลิกเรียน โดยมีแนวคิดในการเป็นหอพักแบบ premium ทั้งในด้านสภาพแวดล้อมและกิจกรรมต่างๆของนักเรียนประจำ นอกจากนั้น โรงเรียนยังได้เปิดรับนักเรียนทุนที่มีความสามารถพิเศษทางด้านวิชาการ รวมถึงความสามารถพิเศษทางด้านกิจกรรมต่างๆและ ทักษะส่วนตัว โดยเปิดรับตั้งแต่ระดับชั้นม.1 และ ม.4 ซึ่งนักรียนที่ได้รับคัดเลือก จะสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนโดยละเว้นค่าธรรมเนียมทั้งหมดตลอดระยะเวลาการศึกษา”
โรงเรียนสาธิตพัฒนา ฝ่ายมัธยมฯ เปิดรับสมัครนักเรียน และนักเรียนทุนเพื่อเข้าศึกษาต่อในปีการศึกษา 2563 โดยใช้ระบบสอบคัดเลือก Minimum Standard Requirement หรือ MSR ซึ่งเป็นการวัดความรู้ทางวิชาการพร้อมค้นหาตัวตน มีการสอบคัดเลือกทั้งสิ้น 3 รอบ โดยเปิดรับสมัครรอบที่ 2 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 1 ธันวาคม 62 นักเรียนและผู้ปกครองที่สนใจสามารถลงทะเบียนสมัครสอบทางออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ www.satitpattanaschool.org
สำหรับผู้ปกครองที่สนใจเยี่ยมชมโรงเรียนพร้อมรับคำแนะนำเกี่ยวกับหลักสูตรที่ สามารถร่วมงาน Open House ในวันที่ 19 ตุลาคม 62 ตั้งแต่เวลา 8.30-12.00 น. โดยสามารถลงทะเบียนสำรองสิทธ์ ได้ทางเว็บไซต์ www.satitpattanaschool.org หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02-113-1956